Topic Progress:

Tax Output – ขั้นตอนการบันทึกข้อมูลยื่นชำระรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม

เงื่อนไขสำหรับการแสดงข้อมูลที่จะนำมาใช้สำหรับการทำรายการ “บันทึกยื่นชำระรายการภาษีขาย” รวมถึงการสั่งพิมพ์รายงานภาษีซื้อ ได้จากระบบ โดยเงื่อนไขที่มีดังต่อไปนี้

ตัวอย่างหน้าจอ UDO : Tax Output

  1. กลุ่มภาษีขายที่สามารถดึงข้อมูลมาบันทึกลงในหน้าจอ UDO : Tax Output ได้ ดังนี้
    • S0000I = อัตราภาษีขาย 0 %
    • S0700I = อัตราภาษีขาย 7 %
    • S0000E = อัตราภาษีขายยกเว้น
  2. หน้าจอสำหรับการบันทึกยื่นชำระรายการภาษีขาย
    • Tax Output (หน้าจอสำหรับการบันทึกยื่นชำระรายการภาษีขาย ของกลุ่มภาษี S0000I, S0700I, S0000E เท่านั้น)
    • หรือสามารถเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มในระบบได้อีก
  3. การบันทึกข้อมูลภายใต้เอกสาร 1 รายการ จะสามารถใส่ข้อมูลของกลุ่มภาษีได้เพียง 1 รหัสภาษี เท่านั้น
  4. ฟิลด์สำหรับการเลือก Criteria บนหน้าจอ UDO : Tax Output ประกอบด้วยฟิลด์ต่างๆ ดังนี้
    • Document month สำหรับการระบุช่วงเวลาที่มีการบันทึกรายการตามเดือนภาษีนั้น ๆ เพื่อจำกัดข้อมูลที่ต้องการในระบบแสดง
    • Document year สำหรับการระบุช่วงเวลาที่มีการบันทึกรายการปีภาษีนั้น ๆ เพื่อจำกัดข้อมูลที่ต้องการในระบบแสดง
    • Tax code สำหรับการระบุรหัสของกลุ่มภาษี เพื่อจำกัดข้อมูลที่ต้องการในระบบแสดง โดยจะแสดงรหัสของกลุ่มภาษีที่ให้เลือกตามหน้าจอ UDO ดังนี้
      • S0000I = อัตราภาษีขาย 0 %
      • S0700I = อัตราภาษีขาย 7 %
      • S0000E = อัตราภาษีขายยกเว้น
    • Trans. Branch สำหรับการระบุเพื่อกรองรายการตาม Transaction Branch ที่มีการบันทึกข้อมูลในแต่ละรายการ ซึ่งฟิลด์นี้จะใช้เฉพาะ Database ที่มีการ Config : Multiple Branch ไว้ในระบบเท่านั้น โดยฟิลด์ที่ใช้สำหรับการ Config : Multiple Branch นี้จะอยู่ภายใต้เมนู ดังนี้ Modules Administration > System Initialization > Company Details > Tab Basic Initialization > Fields Enable Multiple Branches​
  5. ฟิลด์แสดงข้อมูลสำหรับดูรายการที่ต้องการบันทึกยื่นชำระรายการภาษีขาย ที่ต้องแสดงในส่วนของ Details อยู่บนหน้าจอ UDO : Tax Input ประกอบด้วยฟิลด์ต่างๆ ดังนี้
    • Trans. Branch แสดงข้อมูลสาขาที่ถูกบันทึกตาม Transaction Branch ในแต่ละรายการ ซึ่งฟิลด์นี้จะใช้เฉพาะ Database ที่มีการ Config : Multiple Branch ไว้ในระบบเท่านั้น
    • Selected เลือกเอกสารที่ต้องการจะยื่นกรมสรรพากร
    • Document date แสดงข้อมูลสำหรับการระบุวันที่ออกใบกำกับภาษีที่ต้องการให้แสดงบนหน้ารายงานภาษีซื้อ
    • Tax Invoice No. แสดงข้อมูลสำหรับการระบุเลขที่ใบกำกับภาษีที่ต้องการให้แสดงบนหน้ารายงานภาษีซื้อ
    • Doc No. แสดงข้อมูล **Object Type + Document Number ที่บันทึกรายการ
    • Card Code แสดงรหัสของลูกค้า ที่ถูกบันทึกรายการไว้
    • Full name แสดงข้อมูล ชื่อลูกค้า ที่ถูกบันทึกในแต่ละรายการภาษีมูลค่าเพิ่มไว้
    • Tax ID แสดงข้อมูลเลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของ ลูกค้า ที่ถูกบันทึกรายการไว้
    • Branch code แสดงข้อมูลเลขที่สาขา/สำนักงานใหญ่ของ ลูกค้า ที่ถูกบันทึกรายการไว้
    • Price แสดงข้อมูลมูลค่าสินค้า/บริการที่ใช้คำนวณเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • Tax Code แสดงข้อมูลของรหัสภาษี
    • Tax แสดงข้อมูลมูลค่าภาษีซื้อ/ภาษีขายที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
    • Total แสดงข้อมูลมูลค่าสินค้า/บริการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มเรียบร้อยแล้ว
    • Doc Status แสดงข้อมูลสถานะของเอกสารที่ถูกบันทึกรายการไว้
    • Status สำหรับการระบุสถานะของรายการที่ต้องการจะยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในรอบเดือนภาษีนั้นๆ

หมายเหตุ : **Object Type คือ อักษรย่อที่ระบบจะบันทึกไว้ในแต่ละ Transaction ว่าถูกสร้างผ่านเมนูใดบน SAP B1 โดยอักษรย่อในแต่ละเมนูต่างๆ มีดังต่อไปนี้

  • AR Invoice = IN
  • AR Reserve Invoice = IN
  • AR Down Payment = DT
  • AR Credit Memo = CN
  • Journal Entry = JE
  • Incoming Payment = RC

6. ข้อมูลที่แสดงในช่อง ‘Status’ คือ สถานะการบันทึกข้อมูลของขั้นตอนของการกำหนดรอบภาษีที่ต้องชำระ ซึ่งสถานะที่จะแสดงค่าที่ช่องนี้ ได้แก่

หน้าจอ UDO : Tax Output

  • ยื่นชำระ คือ รายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องการบันทึกและยื่นชำระในรอบเดือนปีภาษีนั้นๆ
  • ยกเลิก คือ รายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีการบันทึกเข้าไปในระบบ แต่มีการยกเลิกเอกสารหรือรายการดังกล่าว
  • ไม่ยื่นชำระ คือ รายการภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีการบันทึกเข้าไปในระบบ แต่ยังไม่ประสงค์ที่จะยื่นชำระภาษีในรอบเดือนปีภาษีนั้นๆ

7. บนหน้าจอ UDO : Tax Output จะมีปุ่มการทำงาน ดังนี้

  • Add = การยืนยัน/การตกลง : เมื่อผู้ใช้งานมีการระบุวันสถานะของรายการที่ต้องการจะยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในรอบเดือนภาษีนั้น ๆ เรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการบันทึกค่าเพื่อดึงไปออกในรายงานภาษีขาย ให้
  • Cancel = การยกเลิก : เมื่อผู้ใช้มีการระบุการเรียกดูรายการที่ต้องการนำไปยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว แต่ต้องการที่จะยกเลิกรายการที่เรียกดูทั้งหมด หรือออกจากหน้า UDO : Tax Output
  • Load = การดึงข้อมูลขึ้นมาเพื่อแสดงรายการตาม Criteria ที่ระบุในส่วน Header
  • Print = การสั่งพิมพ์ : เมื่อผู้ใช้แก้ไขรอบภาษีที่ต้องการยื่นชำระเรียบร้อยแล้วแต่ต้องการที่จะตรวจสอบความถูกต้องกับ  นอกระบบ และต้องสามารถพิมพ์ออกมา ได้ทั้งในรูปแบบไฟล์ PDF/Excel
  • Submit = การบันทึก : เมื่อผู้ใช้งานมีการระบุวันสถานะของรายการที่ต้องการจะยื่นชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในรอบเดือนภาษีนั้น ๆ เรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการบันทึกค่าเพื่อดึงไปออกในรายงานภาษีขาย ให้ และหากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าถูกต้องผู้ใช้จะต้องกดปุ่ม Submit เพื่อให้ระบบสามารถดึงข้อมูลภาษีมูลเพิ่มในเดือนถัดไปได้ถูกต้อง อีกทั้งการกดปุ่ม Submit จะทำให้มีการบันทึกเอกสารอ้างอิงระหว่างเอกสารต้นทางกับรายงานภาษีมูลค่าเพิ่มอีกด้วย เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ว่าเอกสารใบดังกล่าวถูกยื่นชำระไปในรอบเดือนปีภาษีใด และการกดปุ่ม Submit จะทำให้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใดๆบนหน้าจอ UDO : Tax Output ได้อีก
  • Reject = การล้างข้อมูล : เมื่อผู้ใช้มีการกดปุ่ม Submit ไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบข้อมูลที่ผิดพลาดจึงทำให้ต้องดึงข้อมูลรายงานภาษีขายใหม่ ระบบจึงมีปุ่ม Reject ให้และเมื่อกดปุ่มนี้แล้วระบบจะคืนค่าที่ Lockไว้ทั้งหมดให้ จากนั้นผู้ใช้จะต้องทำการดึงข้อมูลและกำหนด Status ในแต่ละรายการใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเอง

8. เงื่อนไขแสดงข้อมูลสำหรับดูรายการที่ต้องการบันทึกยื่นชำระรายการภาษีขาย ที่ต้องแสดงในส่วนของ Details อยู่บนหน้าจอ UDO : Tax Output ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังนี้

หน้าจอ UDO : Tax Output

  • ข้อมูลที่นำมาแสดงในรายงานหน้าจอ UDO : Tax Output นี้ จะต้องกรองตาม Criteria ที่ผู้ใช้งานเลือกเท่านั้น
  • ข้อมูลที่นำมาแสดงในรายงานนี้ ต้องเป็นรายการที่ใช้รหัสกลุ่มภาษี S0700I, S0000I, S0000E ถึงสามารถดึงข้อมูลมาแสดงในหน้าจอ UDO : Tax Output เพื่อบันทึกสถานะในขั้นตอนถัดไปได้
  • ข้อมูลในแต่ละรายการที่แสดงอยู่ในช่อง ‘Status’ มีเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้
    • ข้อมูลในแต่ละรายการที่แสดงอยู่ในช่อง ‘Status’ จะต้องยังไม่มีการกำหนดสถานะ “ยื่นชำระ” ไว้ในเอกสารอื่น
    • ข้อมูลในแต่ละรายการที่แสดงอยู่ในช่อง ‘Status’ รายการใดมีการบันทึก Doc. Status ไว้เป็นยกเลิก ระบบจะต้อง Default ไว้เป็น “ยกเลิก” และไม่สามารถแก้ไขให้เป็นค่าอื่นได้
    • ข้อมูลในแต่ละรายการที่แสดงอยู่ในช่อง ‘Status’ ให้แสดงเป็น Drop down list ให้ผู้ใช้งานเลือกเพื่อกำหนดรอบภาษีที่ต้องยื่น โดยระบบจะต้อง Default ไว้เป็น “ยื่นชำระ”
    • การ Lock ไม่ให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงรอบภาษีที่ต้องยื่นได้ การกำหนดรอบภาษีที่ต้องยื่น คือ เอกสารที่แสดงรายการภาษีขายดังกล่าวจะไม่สามารถกำหนดรอบภาษีที่ต้องยื่นข้ามเดือนได้ เช่น เอกสารใบกำกับภาษีลงวันที่ 14/07/2023 รอบภาษีที่ยื่นจะต้องเป็น ‘2023-Jul’ เท่านั้น หากรายการใดที่ไม่มีการกำหนดรอบภาษีที่ต้องยื่นจนเลยเวลาไปแล้ว ระบบจะ Default ค่ารอบภาษีที่ต้องชำระเป็น ‘เกินกำหนด’ แทน และรายการดังกล่าวจะต้อง Lock ไม่ให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงรอบภาษีที่ต้องยื่นได้
    • รายการใดที่มีการกำหนดรอบเดือนปีภาษีที่ต้องยื่นชำระ ที่แสดงตามเงื่อนไขข้างต้นและมีการกดปุ่ม Add เพื่อยืนยันข้อมูลไปแล้ว ในครั้งถัดไปข้อมูลที่ดึงมาแสดงในหน้าจอ UDO : Tax Output จะต้องไม่มีรายการดังกล่าวแล้ว

Tax Report – รายงานภาษีขาย

เมื่อมีการบันทึกรายการข้อมูลการยื่นชำระรายการภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้ว ผู้ใช้สามารถกดปุ่มสั่งพิมพ์รายงานภาษีขายได้จากระบบ

ขั้นตอนการสั่งพิมพ์

  1. ค้นหาเอกสารใน UDO : Tax Output ที่มีการบันทึกภาษีมูลค่าเพิ่มไว้แล้วกดปุ่มสัญลักษณ์รูปกล้องที่อยู่ทางด้านบน หรือ Ctrl + F
  2. หรือ ค้นหาเอกสารใน UDO : Tax Output ที่มีการบันทึกภาษีมูลค่าเพิ่มไว้โดยการระบุข้อมูลบางส่วนลงในช่องต่างๆ ที่ทราบข้อมูลเบื้องต้นจากนั้นกดปุ่ม <Find> ที่มุมซ้ายด้านล่าง
  3. กดปุ่ม Print = การสั่งพิมพ์ : เมื่อผู้ใช้มีการกดปุ่ม Add ไปแล้วจะสามารถกดปุ่ม Print เพื่อสั่งพิมพ์ รายงานภาษีขายตามข้อมูลในเดือนภาษีนั้น ๆ ได้
  4. จากนั้นหน้าจอจะแสดงรายงานภาษีขาย

ตัวอย่างรายงานภาษีขาย